Monday, October 15, 2012

เตรียมพร้อมสอบ "โรงเรียนเตรียมทหาร" 4 เหล่าทัพ

เตรียมพร้อมสอบ “เตรียมทหาร” 4 เหล่าทัพ

 
 
ช่วงนี้น้อง ๆ ที่ตั้งเป้าหมายในชีวิตว่าจะเป็น "รั้วของชาติ" หรือเป็น "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ก็ต้องติดตามข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นช่วงเวลาของการใกล้จะประกาศรับสมัคร "นักเรียนเตรียมทหาร" ของทั้ง 4 เหล่าทัพคือ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ กันแล้ว โดยที่ผ่านมาจะประกาศรับในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี
 
ทำไมถึงต้องเป็นนักเรียนเตรียมทหาร?
 
       เป็นคำถามที่น่าสนใจมากทีเดียว คำตอบอย่างย่อ มีดังนี้คือ
       ๑. การเข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร นักเรียนจะผ่านการสอบคัดเลือกเพียงครั้งเดียว แล้วจะได้เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเลย โดยมิต้องสอบคัดเลือกอีก และได้รับเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงในขณะศึกษาด้วย
       ๒. เมื่อจบจากโรงเรียนเตรียมทหารจะได้เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่เสียค่าใช้ จ่ายน้อยมาก ไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน อีกทั้งมีเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้ในระหว่างที่ศึกษาอยู่
       ๓. โรงเรียนของเหล่าทัพ มีทุนการศึกษาระยะยาวในต่างประเทศให้แก่นักเรียน ที่เรียนดีในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ทุกเหล่า
       ๔. เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนของเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว จะได้รับพระราชทานยศร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี และร้อยตำรวจตรี ได้รับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร ตามสาขาวิชาและได้รับการบรรจุเข้ารับราชการทันทีโดยมิต้องหางานทำอีก
       ๕. จะได้รับราชการในอาชีพที่มีเกียรติ เป็นที่ยอมรับ สมศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายชาวไทย
 
คุณสมบัติของผู้สมัคร (โดยย่อ)
 
    * สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ (ม.๓) หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการหรือเทียบเท่า
    * อายุ ไม่ต่ำกว่า ๑๔ ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน ๑๗ ปีบริบูรณ์ ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร การนับอายุให้นับตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
    * มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด และบิดา มารดา มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร นายตำรวจสัญญาบัตร หรือนายทหารประทวน นายตำรวจประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
    * มี อวัยวะ รูปร่างลักษณะท่าทาง ขนาดของร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นทหารหรือตำรวจ ไม่เป็นโรคตามที่กำหนดไว้ใน กฎกระทรวงออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการรับ ราชการทหาร กฎกระทรวงออกตามความในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการตำรวจ ตาม ที่กองบัญชาการกองทัพไทยกำหนดรายละเอียดไว้ในผนวกท้ายระเบียบ
    * เป็นชายโสด ไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสียทางเพศ หรือติดต่อได้เสียกับหญิงถึงขั้นที่จะถือว่าเป็นภรรยา
    * เป็น ผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดี มีอุดมการณ์เลื่อมใสในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย   อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีผู้ปกครองดูแลรับผิดชอบ
    * ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
    * ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
    * ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกให้ออกจากโรงเรียนเพราะความผิด หรือถูกถอนทะเบียนจากความเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
    * ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติด หรือสิ่งเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
    * บิดา มารดา และผู้ปกครอง เป็นผู้มีอาชีพอันชอบธรรมหรือเมีหลักฐาน
    * เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้ว
    * ต้องมีผู้ปกครองหรือผู้รับรอง ซึ่งสามารถรับรองข้อความ และพันธกรณี ตามที่กองบัญชาการกองทัพไทยกำหนด
    * ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับองค์กรของรัฐบาลหรือเอกชน อันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
 
การสอบภาควิชาการ (คะแนนเต็ม ๗๐๐ คะแนน)
                  สอบวิชาคณิตศาสตร์   วิชา วิทยาศาสตร์   วิชาภาษาอังกฤษ   วิชาภาษาไทย และวิชาสังคมศึกษา ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ มีรายละเอียดดังนี้
                 ขอบข่ายของเนื้อหาที่ใช้ในการออกปัญหาสอบ ฯ สำหรับผู้จบการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้แก่
 
    * วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม ๒๒๐ คะแนน
    * วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม ๒๒๐ คะแนน
    * วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม ๑๔๐ คะแนน
    * วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา คะแนนเต็ม ๑๒๐ คะแนน
           
การสอบรอบสอง
การสอบความถนัด และวิภาววิสัย     
      การสอบพลศึกษา     
      การสอบสัมภาษณ์     
      การตรวจร่างกาย
 
การสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร   (ข้อมูลอาจมีการปรับปรุง )    
         โรงเรียนเตรียมทหาร มิได้เป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะเป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือก และกำหนดจำนวนรับนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในแต่ละปีแล้วส่งมาเรียนรวมกันที่โรงเรียนเตรียมทหารเป็นเวลา ๓ ปี
         เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว จึงจะไปศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร ตำรวจ ตามที่นักเรียนสมัครสอบไว้แต่แรก
 
ใบสมัคร           
มีจำหน่ายประมาณ กลางเดือน มกราคม ไปจนถึงวันสุดท้ายของการสมัครด้วยตนเองของแต่ละเหล่า
 
การสมัครสอบ               
สมัครทางไปรษณีย์ ประมาณ กลางเดือน มกราคม ปลายเดือน กุมภาพันธ์       สมัครด้วยตนเอง    ประมาณ กลางเดือน มีนาคม
 
การสอบคัดเลือก             
ประมาณ ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือน เมษายนของทุกปี
 
สถานที่จำหน่ายใบสมัคร
ใบสมัครและระเบียบการในการสอบคัดเลือก เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร จะมีสถานที่จำหน่ายแตกต่างกันไปตามเหล่าที่นักเรียนสมัครเข้าศึกษาต่อ ดังนี้
         ๑. ใบสมัครของนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพบก มีจำหน่ายที่ กองสถิติและวิจัย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก ๒๖๐๐๑
         ๒. ใบสมัครของนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพเรือ มีจำหน่ายที่ โรงเรียนนายเรือ จ.สมุทรปราการ ๑๐๒๗๐
         ๓. ใบสมัครของนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพอากาศ มีจำหน่ายที่ กองสถิติและวิจัย โรงเรียนนายเรืออากาศ ดอนเมือง กรุงเทพฯ ๑๐๒๒๐ และตามกองบินต่าง ๆ ทั่วประเทศ
         ๔. ใบสมัครของนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีจำหน่ายที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จ.นครปฐม ๗๓๑๑๐
 
หลักฐานที่จะต้องยืนในวันสมัคร
         ๑. รูปถ่ายหน้าตรง ครึ่งตัว ไม่สวมหมวกหรือแว่นตา (เหมือนกับทุกรูป) และต้องเป็นรูปที่ถ่ายไว้ไม่เกิน ๓ เดือน
         ๒. สำเนาสูติบัตร
         ๓. ใบรับรองผลการเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (รบ. ๕ ป) หรือใบรับรองการศึกษาตามอย่างที่แนบ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔)
 
ข้อ    ๓. ใบรับรองผลการเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (รบ. ๕ ป) หรือใบรับรองการศึกษาตามอย่างที่แนบ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔)
เปลี่ยนเป็น     ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๓) หรือใบรับรองผลการเรียน (ม.๓ หรือสูงกว่า)  
 
         ๔. ใบสำคัญทหารกองเกินหรือใบแทน
         ๕. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร และของบิดามารดาผู้ให้กำเนิดซึ่งคัดไว้ไม่เกิน ๓ เดือน หากผู้สมัครมีบิดา และมารดาที่มีนามสกุลไม่ตรงกัน ต้องนำหลักฐานมาแสดงประกอบด้วย
         ๖. ในกรณีที่บิดาหรือมารดาถึงแก่กรรม ให้นำหลักฐานใบมรณบัตรหรือหนังสือรับรองจากนายทะเบียน เพื่อแสดงสัญชาติของบิดาหรือมารดา
         ๗. หลักฐานแสดงว่าสำเร็จหลักสูตรการฝึกวิชาทหาร (ชั้นปีที่ ๑, , , ๔ หรือ ๕) ของกรมการรักษาดินแดน กระทรวงกลาโหม (ถ้ามี)
         ๘. หลักฐานแสดงว่าเป็นบุตรนายทหาร นายตำรวจสัญญาบัตรประจำการ หรือนกประจำการหรือเป็นบุตรนายทหารประทวน หรือตำรวจต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตรประจำการ (ถ้ามี)
         ๙. หลักฐานแสดงว่าผู้สมัครเป็นบุตรทหาร ข้าราชการ คนงาน ซึ่งได้กระทำหน้าที่ระหว่างที่มีการรบหรือสงคราม หรือมีการปราบปรามการจลาจล หรือในระหว่างที่มีพระบรมราชโองการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีสิทธิได้นับวันราชการทวีคูณ (ในกรณีนับวันทวีคูณเฉพาะกรณีปราบจลาจล พ.ศ. ๒๔๙๘) (ถ้ามี)
         ๑๐. หลักฐานแสดงว่าผู้สมัครเป็นบุตรทหาร ข้าราชการ คนงาน ที่ต้องประสบอันตราย ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำตามหน้าที่จนถึงทุพพลภาพ หรือบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือเหรียญกล้าหาญ (ถ้ามี)
 
หมายเหตุ
         ***นักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก (สมัครทางไปรษณีย์ จะใช้รูปถ่ายขนาดใดก็ได้ จำนวน ๑ รูป สำหรับผู้สมัครด้วยตนเองจะถ่ายรูปตอนไปสมัคร)
         ***นักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือ (สมัครทางไปรษณีย์ จะใช้รูปถ่ายขนาด ๑.๕ x ๒ นิ้ว จำนวน ๗ รูป สำหรับผู้สมัครด้วยตนเองจะถ่ายรูปตอนไปสมัคร)
         ***นักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพอากาศ ใช้รูปถ่ายขนาด ๑ นิ้ว จำนวน ๔ รูป
         ***นักเรียนเตรียมทหารในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้รูปถ่ายขนาด ๑ x ๑.๕ นิ้ว จำนวน ๘ รูป
         *** เอกสารทุกอย่างหากผู้สมัครถ่ายเอกสารมาเอง ต้องนำต้นฉบับจริงมาให้กรรมการตรวจสอบด้วย การเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้ผู้สมัครดำเนินการตามแบบฟอร์มที่กำหนดไว้ในระเบียบการซึ่งจะจำหน่ายคู่ กับใบสมัคร
 
การเตรียมตัวของผู้สมัคร
         ๑. ผู้สมัครต้องอ่านระเบียบการทั่วไป และวิธีสมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ตลอดจนคำชี้แจงต่าง ๆ ให้เข้าใจ ชัดเจน โดยตลอด
         ๒. เตรียมหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับการสมัคร ตรวจดูให้มีความถูกต้องครบถ้วน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์และความสะดวกรวดเร็วในการสมัครของผู้สมัครเอง
         ๓. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของร่างกาย ต้องมีขนาดพิกัดและไม่เป็นโรค หรือความพิการอื่นที่ขัดต่อการสมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
         ๔. จดจำกำหนดเวลา และสถานที่ของการรับสมัครที่จะประกาศให้ทราบก่อนการรับสมัคร
         ๕. การแต่งกายในการไปสมัครรวมทั้งการที่จะเข้าสอบ ตลอดจนการไปติดต่อต่าง ๆ ต้องให้สุภาพเรียบร้อย
         ๖. ในวันสมัครจะต้องไปสมัครด้วนตนเองยังไม่จำเป็นต้องนำผู้ปกครอง หรือผู้รับรองไปด้วย
 
สถานที่ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
 
         ขอให้ผู้ที่สนใจติดต่อขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยตรงจากสถาบัน และหน่วยงานที่เป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือก
โดยผู้สมัครสอบคัดเลือกเป็นนักเรียน เตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก ติดต่อที่ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.เมือง จ.นครนายก ๒๖๐๐๐ โทร. ๐๒-๒๔๑-๒๖๙๑ , (๐๓๗) ๓๑๓-๕๙๕ หรือ (๐๓๗) ๓๑๒๐๑๐ ๔ ต่อ ๖๒๑๓๐, ๖๒๑๓๐, ๖๒๑๓๔, ๖๒๑๓๗
 
         ผู้สมัครสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือ ติดต่อที่ โรงเรียนนายเรือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ๑๐๒๗๐ โทร. ๐๒-๓๙๔๐๔๔๑ , ๐๒-๓๙๔๒๕๓๑ , ๐๒-๔๗๕-๓๙๒๓, ๐๒๔๗๕ - ๓๘๕๒
 
         ผู้สมัครสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพอากาศ ติดต่อที่ โรงเรียนนายเรืออากาศ ดอนเมือง กรุงเทพฯ ๑๐๒๒๐ โทร. ๐๒-๕๓๔-๓๖๒๔
 
         ผู้สมัครสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม ๗๓๑๑๐ โทร. ๐๒-๕๓๔-๓๖๒๔
 
         และท่านอาจสอบถามรายละเอียดได้จาก   แผนกสารนิเทศ โรงเรียนเตรียมทหาร ๑๘๕ หมู่ ๕ ตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ๒๖๑๑๐ โทร. (๐๓๗) ๓๐๖๐๒๕ ๔๔ ต่อ ๕๑๙๐ , ๕๗๒๕๑๙๐

No comments:

Post a Comment