การอนุมัติการจบหลักสูตรและการมอบประกาศนียบัตร นักเรียนเตรียมทหารที่จะได้รับการพิจารณาอนุมัติให้จบหลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารได้ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้๑
ต้องเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่ม
ครบตามโครงสร้างที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
ได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา
และได้รับการตัดสินผลการเรียนให้ผ่านทุกรายวิชาพื้นฐานในทุกกลุ่มสาระการ
เรียนรู้และต้องได้จำนวนตามที่กำหนดในแผนการเรียนของโรงเรียนเตรียมทหาร
๒ ต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนครบตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด และได้รับการตัดสินให้ผ่านทุกกิจกรรมในทุกชั้นปี
๓ ต้องผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
๔ ต้องผ่านการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ และได้รับการตัดสินให้ผ่าน
การเรียนซ้ำชั้นนักเรียนเตรียมทหารต้องเรียนซ้ำชั้นในกรณี ดังต่อไปนี้๑
นตท. ชั้นปีที่ ๑ ต้องเรียนซ้ำชั้น ในกรณีมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดปีการศึกษา
ต่ำกว่า ๑.๕ หรือมีคะแนนความประพฤติต่ำกว่า ร้อยละ ๖๐
ของคะแนนความประพฤติประจำปีการศึกษา หรือได้ผลการเรียน "R"
๒ นตท.
ชั้นปีที่ ๒ ต้องเรียนซ้ำชั้น ในกรณีมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดปีการศึกษา
ต่ำกว่า ๑.๗๕ หรือมีคะแนนความประพฤติต่ำกว่า ร้อยละ ๖๐
ของคะแนนความประพฤติประจำปีการศึกษา หรือได้ผลการเรียน "R"
๓ นตท.
ชั้นปีที่ ๓ ต้องเรียนซ้ำชั้น ในกรณีมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดปีการศึกษา
ต่ำกว่า ๒.๐ โดยไม่จบหลักสูตร และไม่ได้รับประกาศนียบัตรในปีการศึกษานั้น
หรือได้ผลการเรียน "R"
๔ นตท. จะเรียนซ้ำชั้นได้ในชั้นปีใดชั้นปีหนึ่งเพียงชั้นปีเดียวเท่านั้น และระยะเวลาศึกษาตลอดหลักสูตรรวมแล้วไม่เกิน ๔ ปีการศึกษา
การศึกษาต่อโรงเรียนเหล่าทัพและโรงเรียนนายร้อยตำรวจนัก
เรียนเตรียมทหารที่ศึกษาจบหลักสูตร
และได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว
จะต้องมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า ๒.๐๐
และมีคะแนนความประพฤติไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐
ของคะแนนความประพฤติประจำปีการศึกษานั้น
นักเรียนเตรียมทหารที่ศึกษาจบ
หลักสูตร กองบัญชาการทหารสูงสุดมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้นั้น
ผู้ได้รับประกาศนียบัตรย่อมมีวิทยฐานะ
มีศักดิ์และสิทธิเทียบเท่าผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ของกระทรวงศึกษาธิการ
การถอนทะเบียนจากความเป็นนักเรียนเตรียมทหารนักเรียนเตรียมทหารจะถูกถอนทะเบียนจากความเป็นนักเรียน ในกรณีต่อไปนี้๑ ลาออก
๒ ถึงแก่กรรม
๓
ป่วยหรือพิการ ซึ่งแพทย์ทหารไม่น้อยกว่า ๓ นาย โดยมีแพทย์ของ กองพยาบาล
โรงเรียนเตรียมทหาร ๑ นาย และแพทย์เฉพาะทาง ๒ นาย
ได้ตรวจและลงความเห็นว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถศึกษาต่อไปได้
หรือมีความพิการที่ขัดต่อการรับราชการทหาร
ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
๔ ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน ๑๒๐ คะแนน ในปีการศึกษานั้น
๕ ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน ๘๐ คะแนน และสอบไม่ผ่านเกณฑ์ในรายวิชาหนึ่งวิชาใด หรือมีคะแนนเฉลี่ยสะสมในปีการศึกษานั้นต่ำกว่า ๒.๐๐
๖ เสพหรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติด หรือเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
๗ มีความสัมพันธ์ทางเพศจนเสียหาย หรือประพฤติติดต่อได้เสียกับหญิงจนถึงขั้นที่ถือได้ว่าเป็นภรรยา
๘ กระทำความผิดเกี่ยวกับการประสงค์ต่อทรัพย์
๙ เกียจคร้านต่อการศึกษา ซึ่งผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร เห็นว่าไม่สมควรให้ศึกษาต่อไป
๑๐
ประพฤติเสื่อมเสียแก่ตนเอง และหรือทางราชการอย่างร้ายแรง
ซึ่งผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหารพิจารณาเห็นสมควรให้ออกจากความเป็นนัก
เรียนเตรียมทหาร
๑๑ ผู้ปกครองหรือผู้รับรอง ถึงแก่กรรมหรือถอนสัญญา และไม่สามารถหาผู้ปกครอง หรือผู้รับรองรายใหม่แล้วแต่กรณีมาทำสัญญาได้ภายใน ๖๐ วัน
๑๒
ปรากฏว่าข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของใบสมัคร
หรือเอกสารประกอบการทำสัญญามอบตัวของนักเรียนเป็นเท็จ
หรือไม่ปฏิบัติตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร
๑๓ ทุจริตในการสอบและสอบไม่ผ่านเกณฑ์ในรายวิชาหนึ่งวิชาใด หรือมีคะแนนเฉลี่ยสะสมในปีการศึกษานั้นต่ำกว่า ๒.๐๐
๑๔ เรียนซ้ำชั้นมาแล้วหนึ่งปี แต่ผลการเรียนยังไม่อยู่ในเกณฑ์ได้เลื่อนชั้น
๑๕ เรียนซ้ำชั้นเกิน ๑ ครั้ง ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
ใน
กรณีที่ผู้พ้นสภาพความเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
เป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วแต่ระยะเวลาที่ถือว่าอยู่ในกองประจำ
การยังไม่ครบกำหนด
ให้โรงเรียนเตรียมทหารส่งตัวผู้นั้นไปรับราชการในกรมกองทหาร
จนกว่าจะครบกำหนดตามกฎหมาย
ค่าชดใช้เงินให้แก่ทางราชการ๑.พ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๑ ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๗๐,๐๐๐ บาท
๒.นัก
เรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๑ เรียนซ้ำชั้นมาแล้ว ๑ ปี
แต่คุณสมบัติยังไม่อยู่ในเกณฑ์ได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาในชั้นปีที่ ๒
ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๗๐,๐๐๐ บาท
๓.พ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๒ ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๘๐,๐๐๐ บาท
๔.นัก
เรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๒ เรียนซ้ำชั้นมาแล้ว ๑ ปี
เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหาร
แต่คุณสมบัติยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร
หรือโรงเรียนตำรวจ แล้วแต่กรณี ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๘๐,๐๐๐ บาท
๕.พ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๓ ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๙๐,๐๐๐ บาท
๖.นัก
เรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๓ เรียนซ้ำชั้นมาแล้ว ๑ ปี
เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหาร
แต่คุณสมบัติยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร
หรือโรงเรียนตำรวจ แล้วแต่กรณี ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๙๐,๐๐๐ บาท
๗.เมื่อ
สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว
ไม่เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจแล้วแต่กรณี
ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
สิทธิของนักเรียนเตรียมทหารนักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเข้าศึกษาตามหลักสูตรต่อจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ (ม.๓) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า๑ ชั้นปีที่ ๑ รับเงินเดือน ระดับ พ.๑ ชั้น ๘
๒ ชั้นปีที่ ๒ รับเงินเดือน ระดับ พ.๑ ชั้น ๙
๓ ชั้นปีที่ ๓ รับเงินเดือน ระดับ พ.๑ ชั้น ๑๐
การประเมินการเรียน๑ การตัดสินผลการเรียน ให้นำคะแนนระหว่างภาคเรียนรวมกับคะแนนปลายภาคเรียน และให้พิจารณาตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา
๒ ให้ใช้อักษรแสดงระดับผลการเรียนในแต่ละรายวิชาดังต่อไปนี้
A หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๔.๐
B+ หมายถึง ผลการเรียนดีมาก มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๓.๕
B หมายถึง ผลการเรียนดี มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๓.๐
C+ หมายถึง ผลการเรียนดีพอใช้ มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๒.๕
C หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๒.๐
D+ หมายถึง ผลการเรียนอ่อน มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๑.๕
D หมายถึง ผลการเรียนอ่อนมาก มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๑.๐
F หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์ มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๐.๐
๓ ให้ใช้อักษรแสดงผลการเรียนที่มีเงื่อนไขในแต่ละรายวิชา ดังนี้
R หมายถึง ให้เรียนซ้ำ
๔ การพิจารณาตัดสินว่านักเรียนเตรียมทหารผ่านการประเมินและได้หน่วยกิต เฉพาะผู้ที่ได้ระดับผลการเรียน D ถึง A เท่านั้น
๕ นักเรียนเตรียมทหารที่ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ให้ได้ระดับผลการเรียน "F"
๖ ให้คำนวณหาค่าระดับคะแนนเฉลี่ย และ/หรือ คะแนนเฉลี่ยสะสมตามระยะเวลา ดังนี้
- เมื่อสิ้นสุดการศึกษาในแต่ละภาคเรียน
- เมื่อสิ้นปีการศึกษา และ/หรือ เมื่อได้ศึกษาจบหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหาร
๗ การวัดผลปลายภาคเรียนเฉพาะผู้ที่มีเวลาเรียนตลอดภาคเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น
๘ การอนุญาตให้นักเรียนเตรียมทหาร เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนสำหรับผู้ที่มีเวลาเรียนไม่ถึง
ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร
+++การ
เปลี่ยนอักษรแสดงระดับผลการเรียน "F" ให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการซ่อมเสริม
ปรับปรุงแก้ไขนักเรียนเตรียมทหาร
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่ไม่ผ่านการประเมิน
แล้วจึงจัดให้นักเรียนเตรียมทหารรับการประเมิน
และให้รับการประเมินได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง
ทั้งนี้ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในภาคเรียนถัดไป
และเมื่อผ่านการประเมินให้ได้อักษรแสดงระดับผลการเรียนใหม่ไม่เกิน "D"
+++
การตัดสินผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ให้ถือปฏิบัติดังนี้๑ พิจารณาตัดสินผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
๒ ให้ใช้อักษรแสดงผลการเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละกิจกรรม ดังนี้
-SA
หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีมาก
โดยผ่านการประเมินผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สำคัญหรือมีผลงานดีเด่น
-SB หมายถึง
ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี
โดยผ่านการประเมินผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
และมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือมีผลงานดี
-S หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยผ่านการประเมินผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
-U หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
๓ การประเมินผลกิจกรรมเฉพาะผู้ที่มีเวลาร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมดที่จัดกิจกรรมของแต่ละภาคเรียน
๔ การอนุญาตให้นักเรียนเตรียมทหาร ได้รับการตัดสินผลการประเมินกิจกรรมสำหรับผู้ที่มีเวลาร่วม
ในกิจกรรมไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมด ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร
๕
นักเรียนเตรียมทหารที่เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยผ่านเกณฑ์การประเมิน
ให้ได้ผลการเรียน "S" , "SB", "SA" ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ให้ได้ผลการเรียน "U"
๖ การเปลี่ยนผลการประเมิน "U" เป็น "S"
ให้ผู้รับผิดชอบจัดซ่อมเสริม หรือให้นักเรียนเตรียมทหาร
ปฏิบัติกิจกรรมตามที่นักเรียนเตรียมทหารเลือกใหม่จนผ่านครบทุกกิจกรรม
ตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
๗ การดำเนินการแก้ "U" ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น หรือก่อนการส่งตัวให้
โรงเรียนเหล่าทัพ หรือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถ้าไม่มาดำเนินการแก้ "U" ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้ได้ผลการเรียน "R"
+++การตัดสินผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้ถือปฏิบัติดังนี้๑ พิจารณาตัดสินผลการประเมินในภาพรวมของคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นรายบุคคล ตามเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
๒ ให้ใช้อักษรแสดงผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้
-SA
หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีมาก
โดยผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สำคัญหรือมีผลงานดีเด่น
-SB หมายถึง
ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี
โดยผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
และมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือมีผลงานดี
-S หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
-U หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
๓
นักเรียนเตรียมทหารที่เข้าร่วมการประเมินในภาพรวมของคุณลักษณะอันพึงประสงค์
โดยผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "S" , "SB", "SA"
ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "U"
๔
การเปลี่ยนผลการประเมิน "U" เป็น "S" ให้ผู้รับผิดชอบจัดซ่อมเสริม
หรือให้นักเรียนเตรียมทหาร
ปฏิบัติกิจกรรมตามที่นักเรียนเตรียมทหารเลือกใหม่จนผ่านครบทุกกิจกรรมลักษณะ
ตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
๕ การดำเนินการแก้ "U" ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น หรือก่อนการส่งตัวให้
โรงเรียนเหล่าทัพ หรือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถ้าไม่มาดำเนินการแก้ "U" ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้ได้ผลการเรียน "R"
+
++ การตัดสินผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ให้ถือปฏิบัติดังนี้๑
พิจารณาตัดสินผลการประเมินในภาพรวมของความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียนสื่อความเป็นรายบุคคล
ตามเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
๒ ให้ใช้อักษรแสดงผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ดังนี้
-SA
หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีมาก โดยผ่านการประเมินผลการอ่าน
คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สำคัญหรือมีผลงานดีเด่น
SB หมายถึง
ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี โดยผ่านการประเมินผลการการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียนสื่อความที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
และมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือมีผลงานดี
-S หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยผ่านการประเมินผลการการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
-U หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
๓
นักเรียนเตรียมทหารที่เข้าร่วมการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียนสื่อความ โดยผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "S" , "SB",
"SA" ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "U"
๔
การเปลี่ยนผลการประเมิน "U" เป็น "S" ให้ผู้รับผิดชอบจัดซ่อมเสริม
หรือให้นักเรียนเตรียมทหาร
ปฏิบัติกิจกรรมตามที่นักเรียนเตรียมทหารเลือกใหม่จนผ่านครบทุกกิจกรรม
ตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
๕ การดำเนินการแก้ "U" ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น หรือก่อนการส่งตัวให้
โรงเรียนเหล่าทัพ หรือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถ้าไม่มาดำเนินการแก้ "U" ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้ได้ผลการเรียน "R"
ข้อมูลจาก กองสถิติและประเมินผล