Wednesday, January 9, 2013

การอนุมัติการจบหลักสูตรและการมอบประกาศนียบัตร

การอนุมัติการจบหลักสูตรและการมอบประกาศนียบัตร
    
นักเรียนเตรียมทหารที่จะได้รับการพิจารณาอนุมัติให้จบหลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารได้ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

๑ ต้องเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่ม ครบตามโครงสร้างที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด ได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา และได้รับการตัดสินผลการเรียนให้ผ่านทุกรายวิชาพื้นฐานในทุกกลุ่มสาระการ เรียนรู้และต้องได้จำนวนตามที่กำหนดในแผนการเรียนของโรงเรียนเตรียมทหาร

๒ ต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนครบตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด และได้รับการตัดสินให้ผ่านทุกกิจกรรมในทุกชั้นปี

๓ ต้องผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์

๔ ต้องผ่านการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ และได้รับการตัดสินให้ผ่าน


การเรียนซ้ำชั้น

นักเรียนเตรียมทหารต้องเรียนซ้ำชั้นในกรณี ดังต่อไปนี้

๑ นตท. ชั้นปีที่ ๑ ต้องเรียนซ้ำชั้น ในกรณีมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดปีการศึกษา ต่ำกว่า ๑.๕ หรือมีคะแนนความประพฤติต่ำกว่า ร้อยละ ๖๐ ของคะแนนความประพฤติประจำปีการศึกษา หรือได้ผลการเรียน "R"

๒ นตท. ชั้นปีที่ ๒ ต้องเรียนซ้ำชั้น ในกรณีมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดปีการศึกษา ต่ำกว่า ๑.๗๕ หรือมีคะแนนความประพฤติต่ำกว่า ร้อยละ ๖๐ ของคะแนนความประพฤติประจำปีการศึกษา หรือได้ผลการเรียน "R"

๓ นตท. ชั้นปีที่ ๓ ต้องเรียนซ้ำชั้น ในกรณีมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดปีการศึกษา ต่ำกว่า ๒.๐ โดยไม่จบหลักสูตร และไม่ได้รับประกาศนียบัตรในปีการศึกษานั้น หรือได้ผลการเรียน "R"

๔ นตท. จะเรียนซ้ำชั้นได้ในชั้นปีใดชั้นปีหนึ่งเพียงชั้นปีเดียวเท่านั้น และระยะเวลาศึกษาตลอดหลักสูตรรวมแล้วไม่เกิน ๔ ปีการศึกษา

การศึกษาต่อโรงเรียนเหล่าทัพและโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

นัก เรียนเตรียมทหารที่ศึกษาจบหลักสูตร และได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว จะต้องมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า ๒.๐๐ และมีคะแนนความประพฤติไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐ ของคะแนนความประพฤติประจำปีการศึกษานั้น
นักเรียนเตรียมทหารที่ศึกษาจบ หลักสูตร กองบัญชาการทหารสูงสุดมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้นั้น ผู้ได้รับประกาศนียบัตรย่อมมีวิทยฐานะ มีศักดิ์และสิทธิเทียบเท่าผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ


การถอนทะเบียนจากความเป็นนักเรียนเตรียมทหาร

นักเรียนเตรียมทหารจะถูกถอนทะเบียนจากความเป็นนักเรียน ในกรณีต่อไปนี้

๑ ลาออก

๒ ถึงแก่กรรม

๓ ป่วยหรือพิการ ซึ่งแพทย์ทหารไม่น้อยกว่า ๓ นาย โดยมีแพทย์ของ กองพยาบาล โรงเรียนเตรียมทหาร ๑ นาย และแพทย์เฉพาะทาง ๒ นาย ได้ตรวจและลงความเห็นว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถศึกษาต่อไปได้ หรือมีความพิการที่ขัดต่อการรับราชการทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร

๔ ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน ๑๒๐ คะแนน ในปีการศึกษานั้น

๕ ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน ๘๐ คะแนน และสอบไม่ผ่านเกณฑ์ในรายวิชาหนึ่งวิชาใด หรือมีคะแนนเฉลี่ยสะสมในปีการศึกษานั้นต่ำกว่า ๒.๐๐

๖ เสพหรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติด หรือเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

๗ มีความสัมพันธ์ทางเพศจนเสียหาย หรือประพฤติติดต่อได้เสียกับหญิงจนถึงขั้นที่ถือได้ว่าเป็นภรรยา

๘ กระทำความผิดเกี่ยวกับการประสงค์ต่อทรัพย์

๙ เกียจคร้านต่อการศึกษา ซึ่งผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร เห็นว่าไม่สมควรให้ศึกษาต่อไป

๑๐ ประพฤติเสื่อมเสียแก่ตนเอง และหรือทางราชการอย่างร้ายแรง ซึ่งผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหารพิจารณาเห็นสมควรให้ออกจากความเป็นนัก เรียนเตรียมทหาร

๑๑ ผู้ปกครองหรือผู้รับรอง ถึงแก่กรรมหรือถอนสัญญา และไม่สามารถหาผู้ปกครอง หรือผู้รับรองรายใหม่แล้วแต่กรณีมาทำสัญญาได้ภายใน ๖๐ วัน

๑๒ ปรากฏว่าข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของใบสมัคร หรือเอกสารประกอบการทำสัญญามอบตัวของนักเรียนเป็นเท็จ หรือไม่ปฏิบัติตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร

๑๓ ทุจริตในการสอบและสอบไม่ผ่านเกณฑ์ในรายวิชาหนึ่งวิชาใด หรือมีคะแนนเฉลี่ยสะสมในปีการศึกษานั้นต่ำกว่า ๒.๐๐

๑๔ เรียนซ้ำชั้นมาแล้วหนึ่งปี แต่ผลการเรียนยังไม่อยู่ในเกณฑ์ได้เลื่อนชั้น

๑๕ เรียนซ้ำชั้นเกิน ๑ ครั้ง ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร

ใน กรณีที่ผู้พ้นสภาพความเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วแต่ระยะเวลาที่ถือว่าอยู่ในกองประจำ การยังไม่ครบกำหนด ให้โรงเรียนเตรียมทหารส่งตัวผู้นั้นไปรับราชการในกรมกองทหาร จนกว่าจะครบกำหนดตามกฎหมาย


ค่าชดใช้เงินให้แก่ทางราชการ

๑.พ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๑ ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๗๐,๐๐๐ บาท

๒.นัก เรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๑ เรียนซ้ำชั้นมาแล้ว ๑ ปี แต่คุณสมบัติยังไม่อยู่ในเกณฑ์ได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาในชั้นปีที่ ๒ ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๗๐,๐๐๐ บาท

๓.พ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๒ ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๘๐,๐๐๐ บาท

๔.นัก เรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๒ เรียนซ้ำชั้นมาแล้ว ๑ ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหาร แต่คุณสมบัติยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจ แล้วแต่กรณี ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๘๐,๐๐๐ บาท

๕.พ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร ในระหว่างเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๓ ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๙๐,๐๐๐ บาท

๖.นัก เรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๓ เรียนซ้ำชั้นมาแล้ว ๑ ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหาร แต่คุณสมบัติยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้เลื่อนขึ้นไปศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจ แล้วแต่กรณี ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๙๐,๐๐๐ บาท

๗.เมื่อ สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว ไม่เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจแล้วแต่กรณี ต้องชดใช้เงินค่าปรับ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท


สิทธิของนักเรียนเตรียมทหาร

นักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเข้าศึกษาตามหลักสูตรต่อจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ (ม.๓) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า

๑ ชั้นปีที่ ๑ รับเงินเดือน ระดับ พ.๑ ชั้น ๘
๒ ชั้นปีที่ ๒ รับเงินเดือน ระดับ พ.๑ ชั้น ๙
๓ ชั้นปีที่ ๓ รับเงินเดือน ระดับ พ.๑ ชั้น ๑๐


การประเมินการเรียน

๑ การตัดสินผลการเรียน ให้นำคะแนนระหว่างภาคเรียนรวมกับคะแนนปลายภาคเรียน และให้พิจารณาตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา

๒ ให้ใช้อักษรแสดงระดับผลการเรียนในแต่ละรายวิชาดังต่อไปนี้
A หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๔.๐
B+ หมายถึง ผลการเรียนดีมาก มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๓.๕
B หมายถึง ผลการเรียนดี มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๓.๐
C+ หมายถึง ผลการเรียนดีพอใช้ มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๒.๕
C หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๒.๐
D+ หมายถึง ผลการเรียนอ่อน มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๑.๕
D หมายถึง ผลการเรียนอ่อนมาก มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๑.๐
F หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์ มีค่าเป็นตัวเลขเท่ากับ ๐.๐

๓ ให้ใช้อักษรแสดงผลการเรียนที่มีเงื่อนไขในแต่ละรายวิชา ดังนี้
R หมายถึง ให้เรียนซ้ำ

๔ การพิจารณาตัดสินว่านักเรียนเตรียมทหารผ่านการประเมินและได้หน่วยกิต เฉพาะผู้ที่ได้ระดับผลการเรียน D ถึง A เท่านั้น

๕ นักเรียนเตรียมทหารที่ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ให้ได้ระดับผลการเรียน "F"

๖ ให้คำนวณหาค่าระดับคะแนนเฉลี่ย และ/หรือ คะแนนเฉลี่ยสะสมตามระยะเวลา ดังนี้
- เมื่อสิ้นสุดการศึกษาในแต่ละภาคเรียน
- เมื่อสิ้นปีการศึกษา และ/หรือ เมื่อได้ศึกษาจบหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหาร

๗ การวัดผลปลายภาคเรียนเฉพาะผู้ที่มีเวลาเรียนตลอดภาคเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น

๘ การอนุญาตให้นักเรียนเตรียมทหาร เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนสำหรับผู้ที่มีเวลาเรียนไม่ถึง
ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร

+++การ เปลี่ยนอักษรแสดงระดับผลการเรียน "F" ให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการซ่อมเสริม ปรับปรุงแก้ไขนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่ไม่ผ่านการประเมิน แล้วจึงจัดให้นักเรียนเตรียมทหารรับการประเมิน และให้รับการประเมินได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ทั้งนี้ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในภาคเรียนถัดไป และเมื่อผ่านการประเมินให้ได้อักษรแสดงระดับผลการเรียนใหม่ไม่เกิน "D"

+++การตัดสินผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ให้ถือปฏิบัติดังนี้

๑ พิจารณาตัดสินผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนเตรียมทหารกำหนด

๒ ให้ใช้อักษรแสดงผลการเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละกิจกรรม ดังนี้
-SA หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีมาก โดยผ่านการประเมินผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สำคัญหรือมีผลงานดีเด่น
-SB หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี โดยผ่านการประเมินผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด และมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือมีผลงานดี
-S หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยผ่านการประเมินผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
-U หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน

๓ การประเมินผลกิจกรรมเฉพาะผู้ที่มีเวลาร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมดที่จัดกิจกรรมของแต่ละภาคเรียน

๔ การอนุญาตให้นักเรียนเตรียมทหาร ได้รับการตัดสินผลการประเมินกิจกรรมสำหรับผู้ที่มีเวลาร่วม
ในกิจกรรมไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมด ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร

๕ นักเรียนเตรียมทหารที่เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "S" , "SB", "SA" ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "U"

๖ การเปลี่ยนผลการประเมิน "U" เป็น "S" ให้ผู้รับผิดชอบจัดซ่อมเสริม หรือให้นักเรียนเตรียมทหาร ปฏิบัติกิจกรรมตามที่นักเรียนเตรียมทหารเลือกใหม่จนผ่านครบทุกกิจกรรม ตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด

๗ การดำเนินการแก้ "U" ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น หรือก่อนการส่งตัวให้
โรงเรียนเหล่าทัพ หรือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถ้าไม่มาดำเนินการแก้ "U" ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้ได้ผลการเรียน "R"


+++การตัดสินผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้ถือปฏิบัติดังนี้

๑ พิจารณาตัดสินผลการประเมินในภาพรวมของคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นรายบุคคล ตามเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนเตรียมทหารกำหนด

๒ ให้ใช้อักษรแสดงผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้
-SA หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีมาก โดยผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สำคัญหรือมีผลงานดีเด่น
-SB หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี โดยผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด และมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือมีผลงานดี
-S หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
-U หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน

๓ นักเรียนเตรียมทหารที่เข้าร่วมการประเมินในภาพรวมของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "S" , "SB", "SA" ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "U"
๔ การเปลี่ยนผลการประเมิน "U" เป็น "S" ให้ผู้รับผิดชอบจัดซ่อมเสริม หรือให้นักเรียนเตรียมทหาร ปฏิบัติกิจกรรมตามที่นักเรียนเตรียมทหารเลือกใหม่จนผ่านครบทุกกิจกรรมลักษณะ ตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด
๕ การดำเนินการแก้ "U" ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น หรือก่อนการส่งตัวให้
โรงเรียนเหล่าทัพ หรือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถ้าไม่มาดำเนินการแก้ "U" ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้ได้ผลการเรียน "R"


+++ การตัดสินผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ให้ถือปฏิบัติดังนี้

๑ พิจารณาตัดสินผลการประเมินในภาพรวมของความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความเป็นรายบุคคล ตามเกณฑ์การประเมินที่โรงเรียนเตรียมทหารกำหนด

๒ ให้ใช้อักษรแสดงผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ดังนี้
-SA หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีมาก โดยผ่านการประเมินผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สำคัญหรือมีผลงานดีเด่น

SB หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี โดยผ่านการประเมินผลการการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด และมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือมีผลงานดี
-S หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยผ่านการประเมินผลการการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความที่คาดหวังที่สำคัญตามที่กำหนด
-U หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน

๓ นักเรียนเตรียมทหารที่เข้าร่วมการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ โดยผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "S" , "SB", "SA" ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ได้ผลการเรียน "U"

๔ การเปลี่ยนผลการประเมิน "U" เป็น "S" ให้ผู้รับผิดชอบจัดซ่อมเสริม หรือให้นักเรียนเตรียมทหาร ปฏิบัติกิจกรรมตามที่นักเรียนเตรียมทหารเลือกใหม่จนผ่านครบทุกกิจกรรม ตามที่หลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหารกำหนด

๕ การดำเนินการแก้ "U" ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น หรือก่อนการส่งตัวให้
โรงเรียนเหล่าทัพ หรือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถ้าไม่มาดำเนินการแก้ "U" ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้ได้ผลการเรียน "R"

ข้อมูลจาก กองสถิติและประเมินผล

No comments:

Post a Comment